ผลงานของทีมปีศาจแดงยังไม่ถือว่ากระเตื้องขึ้นสักเท่าไหร่ และแฟนๆ ก็เริ่มตั้งข้อสงสัยในตัวของ หลุยส์ ฟาน กัล บ้างแล้วกับการตัดสินใจที่แปลกประหลาดหลายครั้งนับตั้งแต่ที่เขาก้าวเข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด…
1. ไม่เซ็นสัญญากับกองหลังตัวกลาง
หลุยส์ ฟาน กัล บอกว่าเขารู้สึกประทับใจฟอร์มของ มาร์กอส โรโฮ ในเกมรอบรองชนะเลิศที่ฮอลแลนด์พบกับอาร์เจนตินาในฟุตบอลโลก ซึ่งขณะนั้นโรโฮเล่นเป็นแบ็คซ้าย แต่เมื่อกุนซือชาวดัตช์คว้าตัวเขาเข้ามากลับส่งลงเล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ค
โรโฮอาจทำผลงานไม่ได้ขี้เหร่นัก แต่ทำไมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดถึงจะต้องจ่ายเงินถึง 16.5 ล้านปอนด์เพื่อคว้านักเตะที่ถนัดตำแหน่งแบ็คซ้ายเข้ามาทำหน้าที่ตรงนี้ด้วย ขณะที่นักเตะเซ็นเตอร์แบ็คของจริงในทีมอย่าง จอนนี่ อีแวนส์, ฟิล โจนส์ และ คริส สมอลลิ่ง ต่างก็ผลัดกันเจ็บเป็นว่าเล่น ทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไม่มีแผงหลังตัวจริงที่แน่นอนสักที
2. การลงสนามของ อันแดร์สัน ในเกมกับเบิร์นลี่ย์
มันน่าตลกที่นักเตะค่าตัวแพงที่สุดของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่าง อังเคล ดิ มาเรีย ถูกเปลี่ยนตัวแทนที่ในเกมดังกล่าว โดย อันแดร์สัน หนึ่งในการเซ็นสัญญาที่แย่ที่สุดของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ทั้งที่ทีมปีศาจแดงกำลังมองหาประตูเพื่อคว้าชัยชนะที่เทิร์ฟ มัวร์
เมื่อถูกถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ ฟาน กัลอธิบายว่า “คุณอาจมองอันแดร์สันเป็นมิดฟิลด์ตัวรับ แต่ผมคิดว่าเขาเหมาะกับตำแหน่งนักเตะหมายเลข 10 มากกว่า”
และไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้วอันแดร์สันก็ไม่สามารถช่วยให้ทีมคว้าชัยได้ที่เทิร์ฟ มัวร์
3. เปลี่ยนตัว อังเคล ดิ มาเรีย ในเกมที่เลสเตอร์
ทีมปีศาจแดงกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ไม่สู้ดีนัก แต่ดิ มาเรียกลับถูกถอดออกให้ ฮวน มาต้า ลงไปเล่นแทนในเกมกับเลสเตอร์ที่คิง พาวเวอร์ สเตเดี้ยม
3 นาทีหลังจากที่มาต้าลงสนาม เจมี่ วาร์ดี้ ก็มาซัดประตูให้เลสเตอร์พลิกขึ้นนำได้สำเร็จ
4. มองข้าม ทอม ธอร์ป
ปัญหาในแนวรับของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดถูกแสดงให้เห็นอีกครั้งด้วยการส่ง แพ็ดดี้ แม็คแนร์ ลงสนามในเกมกับเวสต์ แฮม ยูไนเต็ด ช่วงปลายเดือนกันยายน ตอนที่เขาเพิ่งมีชื่อในเกมกับเอ็มเค ดอนส์ เขายังไม่มีประวัติในวิกิพีเดียเลยด้วยซ้ำ
ไทเลอร์ แบล็คเก็ตต์ ที่ติดโทษแบนในเกมเจอกับทีมขุนค้อนก็ได้ลงสนามไปแล้วก่อนหน้านั้น 5 เกมในลีก แต่น่าแปลกใจที่ ทอม ธอร์ป กัปตันทีมชุดคว้าแชมป์เอฟเอ ยูธ คัพ 2011 กลับไม่ได้รับโอกาสเท่าที่ควร
นักเตะท้องถิ่นรายนี้ทำผลงานได้ดีในรุ่นอายุของเขา และก็เล่นได้อย่างโดดเด่นกว่าแบล็คเก็ตต์ด้วยซ้ำในช่วงไปเล่นแบบยืมตัวกับเบอร์มิงแฮม ซิตี้ แต่เขาก็ได้รับโอกาสจากฟาน กัลลงเล่นแค่เกมเดียวเท่านั้นในฐานะตัวสำรอง ขณะที่แม็คแนร์กับแบล็คเก็ตต์ได้ลงสนามอยู่บ่อยครั้งในแนวรับ
5. 3-5-2 กลับมาอีกครั้งที่เซาแธมป์ตัน
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังเล่นได้อย่างเข้าฟอร์ม พร้อมทั้งเก็บชัยชนะติดๆ กันได้ในเกมกับฮัลล์ ซิตี้ และสโต๊ค ซิตี้ อย่างไรก็ตาม ฟาน กัลกลับมาใช้แผงหลังแบบ 3 คนอีกครั้งในเกมคืนวันจันทร์ที่ออกไปเยือนเซาแธมป์ตัน
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดทำประตูได้ 2 ลูกในเกมนั้น และมันก็มาจากโอกาสยิงตรงกรอบแค่ 2 ครั้งในเกมนั้นด้วย ขณะที่แม็คแนร์ถูกถอดออกระหว่างเกมด้วยเหตุผลที่ว่าเขาดูขาดความมั่นใจ และนอกเหนือจาก ดาบิด เด เคอา, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ กับ แอชลี่ย์ ยัง แล้ว นักเตะคนอื่นๆ ก็ทำผลงานได้ย่ำแย่มาก
6. ส่ง ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ ลงเป็นตัวจริงที่วิลล่า พาร์ค
หนึ่งในเกมที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดสะดุดนั้นเกิดขึ้นที่วิลล่า พาร์ค เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ขณะที่กองหลังตัวกลางของทีมบาดเจ็บพร้อมกันถึง 3 คน ฟาน กัลก็ให้โอกาส ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ ลงสนามเป็นตัวจริงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม
กุนซือชาวดัตช์อาจรู้ตัวดีว่าเขาตัดสินใจผิดพลาดด้วยการถอดมิดฟิลด์ชาวสก็อตออกจากสนามในช่วงพักครึ่ง อย่างไรก็ตามเกมของแอสตัน วิลล่า ก็ดูดีกว่า และแม้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะยิงตีเสมอได้จาก ราดาเมล ฟัลเกา แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถทำอะไรเจ้าถิ่นที่เหลือผู้เล่นเพียงแค่ 10 คนได้เลย
7. การเปลี่ยนตัว ราดาเมล ฟัลเกา ออกในเกมกับสโต๊ค
ผลเสมอที่บริทันเนีย สเตเดี้ยม ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดนั้นค่อนข้างน่าเกลียด เป็นสโต๊ค ซิตี้ ที่ทำผลงานได้เหนือกว่า มีเพียงแค่ ราดาเมล ฟัลเกา เท่านั้นที่เล่นได้อย่างโดดเด่นให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดตลอดครึ่งแรก
แต่ก็น่าแปลกใจที่เขากลับถูกเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 64 แม้ว่ากองหน้าอีกคนอย่าง โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ แทบจะหายไปจากเกมเลยก็ตาม และผู้บรรยายเกมอย่าง แกรี่ เนวิลล์ ก็บอกเอาไว้ว่า “ผมมองว่าผลงานของทีมย่ำแย่ลงไปอีกเมื่อฟัลเกาถูกเปลี่ยนตัวออก”
8. การตัดชื่อ ราดาเมล ฟัลเกา ในเกมกับเซาแธมป์ตัน
หลังจากยิงได้ 2 ประตูจาก 4 เกม รวมถึงทำแอสซิสต์ได้อีก และเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมที่สโต๊ค กลับกลายเป็นว่าไม่มีชื่อของ ราดาเมล ฟัลเกา ในเกมที่เซาแธมป์ตันบุกมาเยือนโอลด์ แทรฟฟอร์ด
ไม่ใช่แค่เพียงเท่านั้น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดยังกลับมาใช้แผน 3-5-2 อีกด้วย และก็แน่นอนว่าผลงานของทีมนั้นย่ำแย่ถึงขั้นไม่มีโอกาสยิงตรงกรอบเลยสักครั้งเดียวเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปีครึ่ง และทีมก็เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไป
9. ส่ง อังเคล ดิ มาเรีย ลงเป็นกองหน้า
“เราน่าจะลองเล่นแบบนั้นดู” ฟาน กัลตอบเมื่อถูกถามเกี่ยวกับตำแหน่งที่ดีที่สุดของดิ มาเรีย และหลายคนก็พอมองออกว่าดาวเตะชาวอาร์เจนตินาไม่ควรเล่นเป็นกองหน้าเหมือนอย่างในเกมที่เจอกับทีมนักบุญ
เกมนั้นถือเป็นหนึ่งในเกมที่เขาโชว์ฟอร์มได้ย่ำแย่ที่สุดในสีเสื้อปีศาจแดงเลยก็ว่าได้ และเขาก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาไม่ใช่ อาร์เยน ร็อบเบน เหมือนอย่างที่กุนซือชาวดัตช์พยายามจะทำ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ฟาน กัลหยุดความคิดด้วยการส่งเขาเล่นเป็นกองหน้าต่ออีกในเกมกับควีนส์ พาร์ค เรนเจอร์ส ในสัปดาห์ต่อมา
10. การประสานงานกันระหว่าง อันโตนิโอ วาเลนเซีย กับ มารูยาน เฟลไลนี่
มันยากที่จะจินตนาการว่าเกมทางฝั่งขวาของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะขับเคลื่อนอย่างไรด้วยการใช้งาน อันโตนิโอ วาเลนเซีย กับ มารูยาน เฟลไลนี่
ทั้งคู่ได้ลงเล่นในตำแหน่งที่ตัวเองไม่ได้ถนัดที่สุดในเกมเจอกับเคมบริดจ์ ยูไนเต็ด และนั่นก็ทำให้ประสิทธิภาพเกมรุกของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดลดลงไปอย่างเห็นได้ชัด
(และสุดท้าย อย่าลืมการตัดสินใจสุดแปลกครั้งนี้… ฟิล โจนส์ ขึ้นมาเตะมุม)
SiR KeaNo
2001-2024 RED ARMY FANCLUB Official Manchester United Supporters Club of Thailand. #ThaiMUSC